Goblin Slayer of Scourge of Hell

ลูปัส ดิเอนเรน  อินควิซเตอร์ เร่รอนหนุ่มอายุ 201 ปี จากดาวเปอน์ดิอินแห่งจักรวาลเรมูนัส ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์เวทย์แห่งความเป็นจริง ที่มีต้นกำเนิดมาจาก เทพอนันต์ทั้ง 7 ตน 

ลูปัส ได้ตอบรับคำขอของศาสนจักรมืดให้ตามไล่ล่าเหล่า ปีศาจและพวกนอกรีตที่กระจัดกระจายอยู่ตามจักรวาลต่างๆ หลังจากที่ข่าวกรองเหล่าซิสเตอร์ได้ระบุเอาไว้ว่าพวกนอกรีตวางแผนการบ้างอย่างที่เป็นภัยต่อความมั่นคงจักรวาลทั้งหมด

เนื่องจากเหล่านักบวชและเหล่าซิสเตอร์ได้สูญเสียกันเป็นจำนวนมากกับการต่อสู้กับเหล่ากบฏที่นับถือเหล่าปีศาจบนดวงดาวแทสโทเปีย จึงไม่มีทางเลือกมากนักที่พวกเขาจะต้องจ้างวาน ลูปัส แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบขี้หน้า ลูปัส ที่นับถือเทพต่างโลกแทนที่จะนับถือเทพแห่งแสงไรออนไฮล์ก็ตามแต่ 

จุดกำเนิดของพลัง ลูปัส 

ลูปัส โดยเดิมนั้นเป็นมนุษย์โลกปกติที่อพยพจากดาวโลก ตั้งแต่ี่เขาอายุ 17 มายังดาวเปอร์ดิอินหลังจากการบุกโจมตีโลกโดย เผ่าพันธุ์ต่างดาวทีเรียดอกซ์ จำนวนมากกมายมหาศาลจนเกือบทำให้เผ่าพันธุ์มนุษยชาติสูญพันธุ์ แต่ทว่าขณะที่เขากำลังอพยพอยู่กลับถูกเคลื่อนย้ายด้วยพลังงานปริศนามายัง มิติวงกรตโชคชะตาอันไร้สิ้นสุด ที่มี ชะตากรรม คุ้มครองอยู่ 

ลูปัส ได้ทำการพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรพอที่จะได้รับพลังจาก เทพอนันต์ ทั้ง 7 ตน จนทำให้ ชะตากรรม พี่ใหญ่ของเหล่าเทพอนันต์ยอมรับ จนทำให้ ลูปัส กลายมาเป็นหนึ่งในเหล่า การ์เด้นไนท์ เพื่อเป็นกำลังรบหลักในการแทรกแซงภัยพิบัติที่เป็นต่อการคงอยู่ของจักรวาลทั้งหมด 

ช่วงเวลาผ่านไปหลายหนึ่งร้อยปี สงครามระหว่างเหล่า สเลเยอร์ และ ปีศาจรวมถึงพวกเอเลี่ยนจากต่างดาว ได้มาถึงจุดตัดสินครั้งใหญ่ โดยที่ ปีศาจที่บูชาเทพแห่งโรคระบาด ได้ทำการบุกมาถึง เซเรส สถานที่เป็นดั่งหัวใจของเหล่ามนุษยชาติ 

ปีศาจที่นับถือเหล่าเทพแห่งความมืด ทั้ง 4 นั้นมีพลังมากกว่าปกติเกินกว่าที่ สเลเยอร์ จะต่อกรได้ ทำให้เหล่า สเลเยอร์ และเหล่านักบวชระดับไพร์มาสเตอร์ ต้องหวังพึ่งบุคคลปริศนานาม อีสเตอร์ ที่อ้างว่าเขาได้รับพลังมาจาก เทพแห่งแสงไรออนไฮส์ 

อีสเตอร์ ได้ทำการเข้าไปในจักรกลศักดิ์สิทธิ์ เพื่อรับพลังอันเหลือล้นจากอำนาจพลังของ เทพแห่งแสงไรออนไฮส์ และได้ทำการกำจัดปีศาจที่นับถือเทพแห่งโรคระบาดได้สำเร็จ ซึ่งภายหลังนั้นได้มีการเฉยว่าพลังของ อีสเตอร์ นั้นไม่ได้มาจาก เทพแห่งแสงไรออนไฮส์ หากแต่มาจากพลังของ เทพแห่งสงครามและความกระหายเลือด 1ใน4 เทพแห่งความมืดต่างหาก เป็นเหตุที่ทำให้เหล่า นักบวชและซิสเตอร์ สั่งประหารชีวิตของ อีสเตอร์ ทันทีในฐานะพวกนอกรีต 

พลังที่ ลูปัส ได้รับมานั้นมันมากมายมหาศาลมากพอจะทำให้เขาสังหาร ครูซิบา หนึ่งในสาวกของเทพแห่งสงครามที่ได้รับฉายาว่า ไร้เทียมทาน ลงได้อย่างง่ายได้ พร้อมกับสามารถสังหารเหล่าปีศาจในนรกที่บุกมาจนจะถึง ศาสนจักรแห่งความมืด ลงได้ทั้งหมด พร้อมกับสามารถกำจัด อีสเตอร์ ที่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาจากความเครียดแค้นลงโดยการใช้เพียงแค่มือเปล่า ด้วยเหตุการณ์ครั้งนี้จึงทำให้ ลูปัส ได้รับฉายาว่า อินควิซเตอร์ (ผู้ตรวจสอบลึกลับ) 

พลังของ ลูปัส มีดังนี้ 

1.) เปลี่ยนแปลงความเป็นจริง ลูปัส สามารถเปลี่ยนสิ่งที่เป็นจริงให้กลายเป็นสิ่งไม่เป็นความจริงได้ โดยไม่สนว่าสิ่งนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม รวมไปถึงยังสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ไม่มีจริงให้กลายเป็นความจริงหรือบิดเบือนบางซึ่งได้ด้วย 

2.) การเปลี่ยนสสาร - เขาสามารถเปลี่ยนสสารจากอีกอย่างให้กลายเป็นอีกอย่างหนึ่งได้ โดยไม่สนกฏเคมีหรือฟิสิกส์แต่อย่างใด 

3.) ลูปัส มีอายุเป็นอมตะโดยที่ไม่จำเป็นต้อง กิน นอนหลับ และ ได้รับอากาศหายใจ 

4.) พลังของ ลูปัส จะเพิ่มมากขึ้นทุกครั้งหลังจากฆ่าสิ่งมีชีวิต 

5.) ไม่มีพลังใดที่จะสามารถหยุด ลูปัส ได้หากไม่นับเหล่าเทพอนันต์

6.) ลูปัส สามารถต่อกรกับศัตรูได้ แม้ใช้เพียงแค่หมัดเปล่า เนื่องจากต้นตอพลังของเขามาจาก เทพอนันต์ ทำให้แท้จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องใช้เวทย์มนต์หรืออาวุธอื่นในการกำราบศัตรูด้วยซ้ำ 

7.) เนื่องจากต้นตอพลังของเขามาจาก เทพอนันต์ จึงทำให้ความเป็นมนุษย์ของ ลูปัส หายไปจนเกือบหมดสิ้น 

8.) มิติที่4 และ มิติที่5 - ช่องวางมิติขนาดอนันต์ที่มีความสามารถอันหลากหลาย เช่น ใช้เก็บสิ่งต่างๆ ไปจนถึงสามารถเรียกอุกกาบาตหรือดาวเคราะห์ให้พุ่งลงมายังจุดที่ต้องการ